หลายคนอาจจะสงสัยว่า
ทำไมหนึ่งรอบนักษัตรจึงมี 12 ปี และเพราะเหตุใดจึงนำสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์ประจำปี
ผมจึงอยากจะไขข้อข้องใจให้ทราบ
ด้วยตำนานสนุกๆของแต่ละชนชาติมาเล่าให้ทราบโดยทั่วกันครับ
เพราะเหตุใด
1 หนึ่งรอบนักษัตรจึงมี 12 ปี
ชาวจีนได้เล่าที่มาของเรื่องนี้ในพงศาวดารเรื่อง
ไคเภ็ก ว่ามนุษย์คนแรกนั้นถือกำเนิดมาจากก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
แล้วแตกออกเป็นหินก้อนเล็กๆ 13 ก้อน จากนั้นก้อนหินแต่ละก้อนได้กลายเป็นผู้ชาย 13
คน คนที่เกิดจากหินก้อนที่ใหญ่ที่สุดมีนามว่า เทียนอ่องสี ซึ่งได้รับการยกย่องจากน้องๆทั้ง
12 คน ให้เป็นกษัตริย์องค์แรก
ส่วนน้องชายแต่ละคนก็ได้รับการนำชื่อไปตั้งเป็นชื่อปี เมื่อครบ 12 ปีจึงนับเป็น
1รอบ
ที่มาของสัตว์สัญลักษณ์ประจำปีนักษัตร
ชาวไทลื้อซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าไทที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของจีน
มีตำนานเล่าถึงสาเหตุของการนำชื่อสัตว์มาตั้งเป็นชื่อปีควบคู่ไปกับตำนานสงกรานต์ว่า
ครั้งเมื่อพระพรหมถูกตัดเศียร ธิดาของพระพรหมทั้ง 12 นาง
ก็ได้มีหน้าที่อัญเชิญเศียรของพระพรหมออกแห่ในวันสงกรานต์ของทุกปี
โดยธิดาแต่ละนางจะมีสัตว์ที่เป็นพาหนะแตกต่างกัน ได้แก่ หนู วัว เสือ กระต่าย
งูใหญ่ งูเล็ก ม้า แพะ ลิง ไก่ หมา และหมู
ชาวไทลื้อจึงนำเอาชื่อสัตว์เหล่านั้นมาตั้งเป็นชื่อปี
เพราะเหตุใดหมูจึงเป็นปีสุดท้าย
มีนิทานอันเป็นที่รู้จักกันทั้งในหมู่ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นเล่าว่า
เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานนั้น
บรรดาเหล่ามนุษย์และสัตว์ต่างก็รีบร้อนวิ่งแข่งกันไปเฝ้าพระบรมศพ
ซึ่งอันที่จริงแล้ววัววิ่งนำหน้าสัตว์อื่นๆ แต่เมื่อไปถึงที่หมาย
หนูซึ่งแอบเกาะหลังวัวได้กระโจนข้ามหัววัวไป
จึงกลายเป็นสัตว์ชนิดแรกที่ได้เฝ้าพระบรมศพ หนูจึงได้รับการยกย่องให้เป็นสัตว์ประจำปีแรกของรอบปี
ตามมาด้วยวัว เสือ กระต่าย งูใหญ่ งูเล็ก ม้า แพะ ลิง ไก่ หมา
และหมูซึ่งมาถึงเป็นลำดับสุดท้าย
มีปีหนู
แต่ทำไมถึงไม่มีปีแมว
นิทานของชาวจีนและญี่ปุ่นเล่าว่า
ขณะที่สัตว์ต่างๆรีบร้อนจะไปเฝ้าพระบรมศพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
แมวมัวแต่นอนหลับอยู่จึงไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย
แต่กระนั้นในชื่อปีนักษัตรของเวียดนามกลับปรากฎชื่อ “ปีแมว” แทนปีกระต่าย
ชาวล้านนาบอกว่าปีหมูคือปีช้างต่างหาก
คนไทยล้านนาไม่มีปีกุน
แต่กลับมีปีช้างหรือที่ภาษาล้านนาเรียกว่า เปิ้งจ๊าง แทน
ทั้งนี้ก็น่าจะเนื่องมาจากชาวล้านนาเรียกชื่อปีตามแบบอินเดีย
ซึ่งใช้ช้างเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำปีสุดท้ายในรอบปีนักษัตร
ชาวล้านนายังเชื่ออีกว่าพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีช้าง ได้แก่
พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย
นิทานไทย
ชนชาติไทยก็มีนิทานเล่ามูลเหตุการณ์ของการนำชื่อสัตว์
12 ชนิด ไปตั้งเป็นชื่อปีเช่นกัน ใน “ตำราเฉลิมไตรภพ” เล่าว่าพระอิศวร
พระแม่อุมา พระพรหม และพระนารายณ์ดำริว่าจะกำหนดวันเวลาให้แก่มนุษย์
จึงได้สร้างสัตว์ 12 ชนิด เริ่มจากหนู วัว เสือ เป็นลำดับไปจนถึงหมู
แล้วใช้ชื่อของสัตว์เหล่านั้นเป็นชื่อเรียกปีแต่ละปี
การที่ชนชาติในเอเชียหลายกลุ่มต่างก็นำสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์ประจำปีนักษัตร
แสดงให้เห็นว่าชนชาติต่างๆนั้นได้ติดต่อสัมพันธ์กัน
จึงได้มีนิทานอธิบายที่มาของชื่อปีที่คล้ายคลึงกัน
นอกจากนั้นการผูกนิทานขึ้นมาอธิบายเรื่องเหล่านี้ตลอดจนการทำนายดวงชะตาของผู้ที่เกิดในปีนักษัตรต่างๆ
ยังสะท้อนถึงจินตนาการของมนุษย์
ในการอธิบายความคิดความเชื่อที่ส่งผลต่อชีวิตอีกด้วย
ผมหวังว่าจะไขข้อข้องใจให้ทุกท่านได้ทราบไม่น้อยนะครับ
หากผู้อ่านมีความคิดเห็นหรือความรู้เพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นให้ผมและผู้อ่านท่านอื่นทราบได้ครับ
อ้างอิงจาก สารบ้านคา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น