หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Beast.สัตว์ป่า

พญาลอ สัญลักษณ์แห่ง ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่


                ในผืนป่าอันยิ่งใหญ่และสมบูรณ์สุดขีดของดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มรดกโลกแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยนั้น นอกจากจะงดงามด้วยภูมิทัศน์และน้ำตกสวยงามมากมายแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมแห่งความหลากหลายทางชีวภาพอันสูงสุด
ไม่ว่าจะเป็นพรรณพืช สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน แมลง สัตว์น้ำ รวมทั้งนกที่พบได้เกือบ 400 ชนิด หรือประมาณเกือบๆ ครึ่งหนึ่งของชนิดนกที่มีทั้งหมดในประเทศ แม้ว่าจะมีนกหายากหรือนกสีสวยๆ อยู่มากมายก็จริง อย่างนกกาฮัง เงือกกรามช้าง หรือแต้วแร้ว แต่นกที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ตัวจริงก็คือ พญาลอ หรือ Siamese Fireback นกในตระกูลไก่ฟ้าและนกกระทา (Pheasants) ที่สวยเด่นที่สุดชนิดหนึ่งของไทย
                พญาลอ หรือบางครั้งก็เรียกชื่อเต็มๆ ว่า ไก่ฟ้าพญาลอนั้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lophura diardi เป็นนกในวงศ์ Phasianidea ที่ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของเหล่าไก่ทรงสุ่ม (Gallopheasants) ซึ่งมีอยู่เพียง 2 สกุล (Genus) คือ Lophura หรือไก่ฟ้า และ Gailus หรือไก่ป่า โดยพบในเมืองไทยทั้งหมด 5 ชนิด และเจ้าพญาลอนี้ก็เป็นไก่ฟ้าตัวที่ได้รับการยกย่องว่า มีรูปร่างเพรียวงามสมส่วนที่สุดด้วย ขนาดและความยาวของนกตัวผู้จะอยู่ที่ประมาณ 70-80 ซม. (เฉพาะความยาวของหางเพียงอย่างเดียวก็ 39 ซม.) ส่วนนกตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าที่ 53-60 ซม. เท่านั้น
                ความโดดเด่นของนกตัวผู้จะอยู่ที่หนังบนใบหน้าที่เป็นสีแดงสด ตัดกับปากสีเหลือง และสีขนตามลำตัว ซึ่งเป็นสีเทาอมฟ้า ส่วนท้องกับก้นเป็นสีดำ มีแถบลายดำ ขอบขาวที่บริเวณหัวปีก ในขณะที่หลังเป็นสีเหลือง ส้มสดใสมันแวววาว สะโพกและขนคลุมหางตอนบนเป็นสีแดงคล้ำประดับด้วยขนสีฟ้าเหลือบม่วงเป็นลายเกร็ดอย่างงดงามหมดจด รับกันอย่างเหมาะเจาะกับขายาวสีแดงอมชมพู และหางเรียวยาวสีดำเหลือบเขียวเป็นมัน ซึ่งที่ปลายหางจะตวัดงอเป็นทรงสุ่มไก่ ส่วนนกตัวเมียก็ถือว่าสวยกว่านกตัวเมียชนิดอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ด้วยลายดำสลับขาวพาดขวางที่หลัง ปีกและหางตัดกับคอสีขาวและลำตัวที่เป็นสีน้ำตาลอมแดงนิดๆ
                นิสัยของไก่ฟ้าพญาลอรูปงามนี้ ชอบอยู่ตามที่ราบหรือบริเวณเชิงเขาที่เป็นป่าดงดิบ ที่ความสูงไม่เกิน 800 ม. พบหากินเป็นฝูงเล็กๆ ประมาณ 5-7 ตัว ทำรังและวางไข่ในช่วงหน้าร้อนไปจนถึงช่วงต้นฤดูฝน จากเดือน เม.ย. ถึงเดือน มิ.ย. ของปี ไข่ครั้งละ 4-8 ฟอง ไข่เป็นสีน้ำตาลอมเหลืองซีด ที่สำคัญก็คือ พญาลอ ยังมีความเป็นพิเศษเฉพาะในเรื่องของสัตว์เฉพาะถิ่นในภูมิภาค หรือ Rrgional Endemic ที่มีถิ่นแพร่กระจายเป็นวงแคบๆ อยู่เฉพาะในไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพียง 4 ประเทศนี้เท่านั้น
                อีกประการหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ พญาลอเป็นนกเพียงชนิดเดียวของไทย ที่ได้รับเกียรติในชื่อที่สื่อบ่งบอกถึงความเป็นไทย หรือ “Siam ให้คนทั่วโลกได้รู้จัก ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า พญาลอรูปงามแห่งป่ามรดกโลก ซึ่งได้รับการเสนอให้เป็น “นกประจำชาติไทย” ด้วยอีกหนึ่งตำแหน่ง


จาก สารบ้านคา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น